บทที่
3
วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis)
T : วิเคราะห์งาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้ความรู้ (Knowledge)
ทักษะ(Skill) และ เจตคติ(Attiude)
ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้
การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือKnowledge-Skill-Attitudes การวิเคราะห์ภาระงานเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์การเรียนการสอนซึ่งประกอบด้วย
3 ขั้นตอนคือ
1.ตัดสินใจให้ได้ว่าเป็นความต้องการในการเรียนการสอน
มีภาระงานที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
2. ต้องมีความชัดเจนว่าต้องเรียนรู้เรื่องใดมาก่อน
จึงจะนำไปสู่ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
3.การประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน
จากขั้นที่ 2 บอกให้รู้ว่าผู้เรียนจะต้องเรียนรู้และวัดผลในเรื่องใด
Donald
Clark ,(2004 : 13)
เสนอแนวทางการวิเคราะห์ตามกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนนี้ว่า
เป็นการปฏิบัติเพื่อลงสรุปให้ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนการสอนให้ชัดเจน
ดังนี้
ทบทวนระบบหรือกระบวนการเพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น
เรียบเรียงภาระงาน (ถ้าจำเป็น)
· ระบุ งาน
· บรรยายลักษณะงาน
· รายงาน ภาระงานของแต่ละงาน
วิเคราะห์ภาระงานนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อตอบสนองความต้องการการเรียนรู้
เลือกภาระงานสำหรับการเรียนการสอน
(ภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องก็ควรจะเลือกใช้วิธีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การสอน)
สร้างเครื่องมือวัดผลการปฏิบัติ
เลือกวิธีการเรียนการสอน
ประมาณค่าใช้จ่ายในการสอน (ถ้าจำเป็น)
หมายเหตุ คำว่า (ถ้าจำเป็น) อาจไม่ต้องทำก็ได้
เมื่อผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายรับทราบกิจกรรมนั้น ๆ ทราบแล้ว
การวิเคราะห์งาน
การวิเคราะห์งานเป็นการตรวจสอบว่าในการศึกษานั้น ๆ
มีงานใดที่เป็นชีวิตจริง
และมีความรู้ทักษะและเจตคติใดบ้างที่นำไปสู่ความสำเร็จในการทำงานนั้น ๆ
การวิเคราะห์งานช่วยให้แน่ใจว่าจะได้สาระและคุณค่าที่เกี่ยวข้องในการเรียนรู้
คำถามหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์งาน ในการวิเคราะห์งาน มรคำถามหลัก 3 ข้อ
คือ
ภาระงานใดเป็นข้อกำหนดของงาน
การจัดเรียงลำดับของแต่ละภาระงานคืออะไร
เวลาที่ใช้ในการทำแต่ละภาระงาน
สุดท้ายหาคำตอบให้ได้ว่าภาระงานใดมีความสำคัญ เนื่องจากงานประกอบด้วนภาระงานหลายภาระงาน
การวิเคราะห์งานทำอย่างไร
วิธีการวิเคราะห์งานที่ใช้บ่อย คือ
การสอบถาม (questionnaires)
การสำรวจโดยส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์สอบถามผู้เชี่ยวชาญ
เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายน้อยและได้ข้อมูลจำนวนมาก
การสัมภาษณ์ (interviews) การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
หรือการพบปะสนทนาเป็นรายบุคคลกับผู้เชี่ยวชาญ
เป็นวิธีที่มี่ค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลามาก แต่มีข้อดีสำหรับคำถามปลายเปิด
หรือสามารถถามเพิ่มเติมในประเด็นที่ต้องการทันที
การสนทนากลุ่ม (focus groups)
การสัมภาษณ์กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ
ซี่งจะให้ผลดีกว่าในประเด็นที่จะช่วยให้ตรงประเด็นมากกว่า
มิฉะนั้นอาจจะเข้าใขผิดหรือมโนทัศน์ที่ผิดพลาดได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น